ถึงเวลา มารื้อปรับระบบพัฒนาคนกันใหม่

..."พวกมนุษย์ที่สร้างเทคโนโลยีขึ้นมานั้น เป็นพวกที่ต้องฝึกจริงๆ ต้องเพียรพยายามในการสร้างสรรค์ แต่พอมีเทคโนโลยีพรั่งพร้อมขึ้น คนก็อยู่ง่าย สะดวกสบาย กลายเป็นผู้บริโภคเทคโนโลยี และเมื่อนั้นความเพียรยายามในการสร้างสรรค์ ก็จะอ่อนกำลังลดน้อยลง คนจะเริ่มเฉือยชา เห็นแก่ความสะดวกสบาย พอใจอยู่กับการได้รับบำรุงบำเรอ...

...อย่างเด็กสมัยนี้ เกิดท่ามกลางเทคโนโลยี ที่สะดวกสบายทุกอย่าง ความสะดวกสบายนี้ ก็เป็นสภาพปกติของเขา ที่เขารู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่พอสภาพปกตินั้นขาดตกบกพร่องไปนิดหน่อย ก็กลายเป็นทุกข์ทันที... ฉะนั้น เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ ที่เรียกว่า สุขสบาย จึงต้องระวังมากทีเดียว ถ้าไม่พัฒนาคนให้ดี แทนที่จะได้ประโยชน์ กลับจะได้โทษ...

...คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยนัก ที่ต้องใช้แรงกำลังบ้าง ซึ่งเป็นสภาพปกติสำหรับเขา แต่ถ้ามองในแง่ของเราว่ายากลำบาก เหน็ดเหนื่อย เมื่อเขาทำอะไรเสร็จไปนิดหน่อย หรือเขาได้อะไร มาช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นนิดหน่อย เขาก็จะสุขทันที และจะสุขมาก ในขณะที่คนสมัยนี้เฉยๆ แต่เขาจะสุข เป็นอันว่าเขาจะเกิดภาวะที่เรียกว่าสุขได้ง่ายกว่า แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือการกระทำ อะไรที่เหน็ดเหนื่อยนั้น เป็นธรรมดาของเขา พอเจอเรื่องอื่นที่ต้องทำมันก็เท่านั้นแหละ ซึ่งอาจจะเบากว่าด้วยซ้ำสิ่งที่ต้องไปทำอีกอันหนึ่งยังเบากว่าที่เขาทำอยู่แล้ว  มันก็ไม่เห็นจะต้องทุกข์ เพราะฉะนั้นจะเกิดภาวะที่เรียกว่าทุกข์ได้ยาก ซึ่งตรงข้ามกับเด็กสมัยนี้ที่ทุกข์ได้ง่าย แต่สุขได้ยาก...
ที่มาจาก ธรรมเทศนา แก่ นิสิตปริญญาเอก สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ณ สถานพำนักสงฆ์สายใจธรรม เขาำสำโรงดงยาง อ. พนมสารคาม จ. ฉะเชิงเทรา
เปลี่ยนชื่อจาก - ถึงเวลา มาพัฒนาเยาวชนกันใหม่