เจอวิกฤต จะเลือกวิวัฒน์ หรือจะเอาวิบัติ

Somdet Phra Buddhaghosacariya (P. A. Payutto)

ว่า “วิกฤตเป็นโอกาส” แต่เรารู้จักใช้โอกาสนั้นหรือเปล่า

พอพูดถึงคำว่า “วิกฤต” เราก็มีความรู้สึกไม่ดี คือเป็นเรื่องของความทุกข์ เป็นเรื่องของปัญหา แต่ท่ามกลางภาวะวิกฤตนี้ความจริงมีข้อดีหลายอย่าง และข้อดีบางอย่างก็มากจนกระทั่งเราแทบจะพูดได้ว่า ภาวะวิกฤตนี้แหละ ที่จริงเป็นโชคดี

เป็นโชคดีของประเทศไทยที่ได้มาประสบภาวะวิกฤตนี้ ถ้าพูดแบบเล่นๆ ก็อาจจะบอกว่าพวกเรานี่โชคดีที่ได้เจอภาวะพลิกผัน แบบที่คนผู้เกิดในยุคอื่นไม่มีโอกาสจะได้เจอ ที่ว่านี้แม้จะเป็นเพียงการพูดเล่นก็มีความเป็นจริงอยู่ด้วย

ที่เป็นโชคดีแท้ๆ ก็คือความจริงที่ว่า ประเทศไทยเรานี้ ถ้าเปรียบเทียบกับกระแสน้ำ ในเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งนี้ เราก็เหมือนคนที่เล่นสนุกอยู่ในกระแสน้ำนั้นโดยไม่รู้ตัวว่าความจริงกระแสน้ำนั้นไหลไปลงเหว การที่เกิดวิกฤตนี้ก็เปรียบเหมือนกับกระแสน้ำนั้นพาพวกเราที่กำลังเล่นสนุกอยู่โดยไม่รู้ตัวนั้น มากระทบหรือชนเข้ากับโขดหิน แม้จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเป็นความทุกข์ แต่ก็ทำให้รู้ตัวก่อนที่จะตกลงไปในเหว

เพราะฉะนั้น ภาวะวิกฤต ก็คือภาวะที่อยู่ในระหว่างความเป็นความตาย คือจุดที่กระทบกับโขดหิน ซึ่งก็เป็นภาวะที่เราอาจจะกลับฟื้นคืนขึ้นมา ถ้าเรารู้ตัวแล้วรีบดิ้นรนขวนขวายตะเกียกตะกายหนีขึ้นไปได้ แต่ถ้าเราไม่มีความสามารถเพียงพอ กระแสน้ำก็จะพาเราไหลต่อจนตกลงไปในเหว ช่วงเวลานี้จึงเป็นขณะที่สำคัญ ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถของเราด้วย และจึงบอกว่าเป็นโชคดีที่ทำให้เรารู้ตัวขึ้นมา มิฉะนั้นเราก็จะหลงเพลิดเพลินกันต่อไป จนตกลงเหวและก็เลยตายไป ไม่มีทางที่จะแก้ไข ฉะนั้นวิกฤตนี้จึงเป็นช่วงเวลาอันเหมาะที่เราจะได้รีบลุกขึ้นมาขวนขวายเพียรพยายามแก้ไขปัญหา

เป็นธรรมดาว่าเมื่อเกิดวิกฤต อย่างที่ว่ากระทบกับโขดหิน ก็ต้องมีความทุกข์บ้าง แต่ก็ย่อมดีกว่าที่ว่าท่ามกลางความเพลิดเพลินนั้นเราก็ลงเหวไปโดยไม่รู้ตัว

เมืองไทยเราระยะที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงที่เราฟุ้งเฟ้อสนุกสนานเพลิดเพลินกันมาก เราอยู่ในภาวะที่เรียกกันว่าบริโภคนิยม ลุ่มหลงมัวเมาในการเสพบริโภค จนกลายเป็นว่าตอนนี้เรามาเสวยวิบากที่เป็นผลจากความเพลิดเพลินลุ่มหลงมัวเมานั้น ต้องประสบความทุกข์ ถ้าเราลุกขึ้นดิ้นรนขวนขวายเพียรพยายามแก้ไข ก็จะกลายเป็นยุคแห่งการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์กันใหม่

เพราะฉะนั้น พูดในแง่หนึ่ง ระยะเวลาที่แล้วมา ตอนที่รุ่งเรืองเฟื่องฟู จึงเป็นระยะเวลาแห่งการทำลาย ขอให้พิจารณาว่าเป็นความจริงหรือไม่ ยุคที่แล้วมานั้นเป็นยุคทำลาย และยุคต่อไปนี้แหละ(ถ้าตั้งตัวให้ดี) จะเป็นยุคแห่งการสร้างสรรค์ เพราะฉะนั้นจึงพูดอย่างที่มีผู้กล่าวบ่อยๆ ว่า วิกฤตเป็นโอกาส

แต่คำว่า “วิกฤตเป็นโอกาส” นี้มีความหมายหลายอย่าง คือเป็นโอกาสในความหมายของคนที่หาผลประโยชน์ก็ได้ หมายความว่า บางคนเวลาเกิดวิกฤตของส่วนรวม ก็ฉวยโอกาสกอบโกยเอาผลประโยชน์ส่วนตน จึงเป็นโอกาสสำหรับเขาเหมือนกัน แต่ในความหมายที่เราต้องการก็คือ เป็นโอกาสสำหรับสังคมทั้งหมด ซึ่งข้อสำคัญอยู่ที่ว่าจะใช้โอกาสนี้เป็นหรือไม่

ตอนนี้ขอให้เรามองในแง่ที่ว่า ยามประสบทุกข์หรือปัญหานั้น เป็นช่วงเวลาที่เราจะต้องเร่งขวนขวายในการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ วิกฤตนี้จะเกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ซึ่งความจริงก็ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อทุกข์ภัยเกิดขึ้น โดยธรรมชาติจะทำให้คนลุกขึ้นดิ้นรนขวนขวาย

The content of this site, apart from dhamma books and audio files, has not been approved by Somdet Phra Buddhaghosacariya.  Such content purpose is only to provide conveniece in searching for relevant dhamma.  Please make sure that you revisit and cross check with original documents or audio files before using it as a source of reference.