ทางออกของสังคมไทย

Somdet Phra Buddhaghosacariya (P. A. Payutto)

ปัญหาใหญ่คือคุณภาพคน

ปัญหาใหญ่ขณะนี้ก็คือ ปัญหาเรื่องคุณภาพของคน ซึ่งจะเป็นปัญหาของเมืองไทยไปอีกนาน ขณะนี้วงการศึกษาเองก็มีการตระหนักกันว่า เราดำเนินงานการศึกษาผิดพลาดไปมากแล้ว ดังนั้น ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ จะเห็นว่าในวงการศึกษาได้มีความพยายามหาทางเปลี่ยนแปลง มีการตระหนักว่าได้ทำผิดพลาดไป มีการต่อว่าติติงกันเองว่าระบบการศึกษาของเราเดินทางมาผิด ช่วงที่ผ่านมานี้เห็นปัญหากันชัดมากขึ้นแล้วก็พูดกันว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร กระแสที่เป็นมาก่อนก็คือกระแสตามฝรั่ง ในลักษณะที่มีค่านิยมบริโภค ไม่ผลิต ทำให้การพัฒนาประเทศไม่ประสบผลสำเร็จ ตอนนี้ก็เกิดกระแสที่จะหันกลับ เกิดเป็นแรงย้อนทวนขึ้นแล้วก็พยายามหาทิศทางกัน เรายังอยู่ในระยะหาทาง ยังพยายามกันอยู่ แต่ยังไม่ชัดเจนพอ

สำหรับกรณีที่ว่าขณะนี้มีการพูดถึงเรื่องการพัฒนาประเทศไปสู่ความเป็น "นิกส์" นั้น เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณากันมากเหมือนกันว่า มีองค์ประกอบอะไรเข้ามาร่วมที่จะแปรผลไปในทางดีหรือร้าย ในการพัฒนาประเทศขึ้นไปเป็น "นิกส์" นั้น บางพวกก็มีความมุ่งหวังว่า การที่ให้มีอุตสาหกรรมขึ้นมา และมีการส่งเสริมกันอย่างจริงจัง บางทีเราอาจจะกลายเป็นผู้ผลิตได้บ้าง เราได้แต่หวัง แต่ปัญหาของเราคือตอนนี้เราเป็นผู้บริโภค ถ้าเราไม่ปรับตัวให้มีนิสัยในการผลิตแล้ว การพัฒนาก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ เมื่อเราพยายามทำตัวเป็นนิกส์ วิธีการของเราก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่งว่า เราจะพัฒนาคนโดยสร้างค่านิยม หรือสร้างนิสัยในการเป็นผู้ผลิตได้จริงไหม และเรื่องนี้ก็ไปเกี่ยวข้องกับต่างประเทศที่เข้ามาด้วย เพราะเราจะสนับสนุนให้เขาเข้ามาลงทุน เมื่อให้เขาเข้ามาลงทุน ประเทศเหล่านั้นเป็นผู้ฉลาด เขาเดินทางมาก่อนเรา เขามีความชำนาญในเรื่องเหล่านี้ ข้อที่หนึ่งที่เราจะต้องคิดก็คือว่า เขาจะยอมเสียเปรียบเราหรือ เอาละ ไม่เสียเปรียบก็ไม่เป็นไร แต่จะมีความเท่าเทียมกันจริงไหม แล้วถ้าเขาคิดเอาเปรียบ เรามีทางแก้อย่างไร ถ้าเขาเอาเปรียบแล้วเรามีทางอื่นที่จะได้ผลดีพิเศษเหนือกว่า ที่จะเอามาสมดุลกันไหม จริงอยู่ เราก็ต้องยอมรับว่าเขาก็ต้องพยายามเอาเปรียบเป็นธรรมดา เพราะพวกนักธุรกิจที่เดินมาในยุคอุตสาหกรรม จะทำอะไรก็จะมุ่งเอาเปรียบ แต่เราก็ต้องมองเห็นข้อได้เปรียบของเราที่จะเกิดความสมดุลกับเขา

ถ้าการพัฒนาประเทศไปสู่นิกส์เป็นไปในรูปที่ว่าไม่มีทางได้เปรียบเขา มีแต่เขาเอาเปรียบเราอย่างเดียว อย่างนี้ก็จะเป็นการสร้างสมปัญหามากขึ้น ขณะนี้ ในสภาพที่เป็นอยู่ มันมีความซับซ้อน ซึ่งมองไม่ชัดเจน เช่นในด้านรัฐบาล เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ารัฐบาลคิดอย่างไร และคนที่อยู่ในวงการนี้ คิดยังไง เข้าใจยังไง และมีเจตนาอย่างไร ที่สำคัญก็คือเจตนา ถ้ามีเจตนามุ่งไปที่ผลประโยชน์ส่วนตัว ก็เชื่อได้เลยว่าจะต้องไม่สำเร็จ แต่อาจจะสูญเสียมากขึ้น การที่ต่างชาติเขาจะเอาเปรียบเราได้ก็ต้องมีคนในร่วมให้ทางแก่เขา เช่น อาจจะได้ผลประโยชน์แล้วเปิดทางให้เขาเป็นต้น เป็นเรื่องที่จะต้องระวังมาก

ถ้ามองที่พื้นฐานของเราที่เป็นอยู่ในขณะนี้คือ คุณภาพคนของเรามีปัญหามาก ตั้งแต่คนในระดับพื้นฐานหรือระดับสามัญทั่วไป ก็มีค่านิยมบริโภค ไม่เป็นผู้ผลิต ซึ่งเป็นค่านิยมที่ครอบคลุมสังคมของเราอยู่ ทีนี้มองในระดับบริหาร คนระดับบริหารของเราก็มีปัญหาอยู่แล้ว ซึ่งเราเองบ่นกันมาก ในเรื่องคอรัปชั่น ว่าคนดีมี แต่น้อย ในเมื่อสภาพของเราเป็นอย่างนี้ เมื่อไปสัมพันธ์กับต่างชาติ ก็มองเห็นชัดทันทีว่ามันจะต้องแสดงฤทธิ์ออกมา ที่ว่านี้เรามองจากธรรมดาตามสภาพที่เป็นอยู่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ มันก็จะออกมาในรูปที่ไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์ต่อชาตินัก ถ้าจะเป็นประโยชน์ก็คงจะเป็นสภาพที่ทำให้เกิดความตื่นเต้นในระยะสั้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความเสื่อมโทรมในระยะยาวก็เป็นได้ คนของเรามีลักษณะอย่างหนึ่งคือ ชอบตื่นต่อความเจริญหรือภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจในช่วงสั้นๆ ไม่ได้มองอะไรที่ยาวไกลเหมือนกับเราสร้างความเจริญโดยไม่ได้คำนึงว่าทรัพยากรจะสูญเสียไปเท่าไร สภาพธรรมชาติจะหมดไปสักเท่าไร เช่นเราพากันตื่นเต้นต่อสภาพความเจริญที่เกิดขึ้นมาในเมือง เสร็จแล้วป่าหมดเราก็ไม่ได้ใส่ใจ

The content of this site, apart from dhamma books and audio files, has not been approved by Somdet Phra Buddhaghosacariya.  Such content purpose is only to provide conveniece in searching for relevant dhamma.  Please make sure that you revisit and cross check with original documents or audio files before using it as a source of reference.